การฉีดโบท็อกเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยลดริ้วรอยเพื่อปรับใบหน้า ให้ยกกระชับเข้ารูปมากยิ่งขึ้น โดยใช้สารสกัดโบทูลินัม ท็อกซินเอ ปัจจุบันเป็นนวัตกรรมความงามซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าเต่งตึง และกระชับ จึงทำให้นวัตกรรมนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ การฉีดโบท็อกซ์นั้นจะต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชียวชาญเท่านั้น อีกทั้งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณของสารโบท็อกซ์ที่ควรฉีดให้ผู้เข้ารับบริการแต่ละราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การฉีดโบท็อกให้ผลลัพธ์รวดเร็วชัดเจน ภายใน 3-6 วัน และที่สำคัญราคาไม่แพง โดยปกติแล้วการฉีดโบท็อกจะสามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน แต่ทั้งนี้ระยะเวลาการแสดงผลนั้นก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับการดูและปฏิบัติตัวหลังการ ฉีดโบท็อก ดังนั้นการปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นอกจากระยะเวลาการแสดงผลแล้ว คนไข้ต้องดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่น ไม่ควรประคบเย็นเพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3 ชม เปลี่ยนมานอนหมอนสูง รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น เป็นต้น
นอกจากการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันแล้ว อาหารการกินก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการต้องใส่ใจและระมัดระวังการกินเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การเข้าซาวน่า เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage งดนอนคว่ำ, งดก้มหัวต่ำกว่าอก เป็นต้น
อาหารที่ไม่ควรทานหลังฉีดโบท็อก
- หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อนๆ
- ควรงดอาหารที่เผ็ดมากๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
- งดอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง ผลไม้ดอง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
- งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่จะมีสารที่มีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด เป็นต้น
ซึ่งอาหารการกินเหล่านี้จะมีผลต่ออายุของโบท็อกอย่างมากโดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์ แรก เพราะฉะนั้นจะต้องระวังให้มากๆ เช่น การออกกำลังกาย จะเห็นได้ว่าการฉีดโบท็อกนั้นสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วแต่หลังจากที่ฉีดโบท็อกแล้วต้องดูแลกิจกรรมและเรื่องอาหารการกินที่จะส่งผลกระทบต่ออายุของโบท็อก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ยาวนานและปลอดภัยที่สุด